วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ประวัติความเป็นมาของบัตรประจำตัวประชาชน

บัตรประจำตัวประชาชนมีวิวัฒนาการเริ่มจาก “หนังสือเดินทางสำหรับราษฎร” ที่เป็นต้นกำเนิดของบัตรประชาชน เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2457 สมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อประโยชน์ของราษฎรในการแสดงตัวบุคคลว่า เป็นใคร มาจากแห่งหนตำบลใด ทำให้การเดินทางในต่างท้องที่เป็นไปด้วยความสะดวก และเป็นหลักฐานกรณีถูกตรวจค้นตัว ยืนยัน และพิสูจน์ว่าเป็นคนบริสุทธิ์ที่ทางราชการรับรองแล้ว ไม่ใช่พวกมิจฉาชีพหรือพวกโจร ต่อมารัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม เกิดแนวคิดทำเอกสารเฉพาะตัวบุคคล จึงออก พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2486 มาบังคับใช้เป็นครั้งแรก เพื่อให้ทำบัตรประชาชนแก่คนไทย แต่บังคับใช้เฉพาะราษฎรในจังหวัดพระนคร และจังหวัดธนบุรี ซึ่งก็คือกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

 

บัตรประชาชนรุ่นแรก เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า พับเป็น 4 ตอน ขนาด 3x4 นิ้ว คล้ายบัตรยืมหนังสือของห้องสมุด มี 8 หน้า ปกหน้ามีรูปครุฑ และคำว่า “บัตรประจำตัวประชาชน” พร้อมเลขทะเบียนที่ออกบัตร ปกหลัง เป็นคำเตือนสำหรับผู้ถือบัตร เช่น ต้องพกติดตัวและแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้เสมอ หน้า 1 ปิดรูปถ่ายผู้ถือบัตรขนาด 2 นิ้ว พร้อมลายมือและลายพิมพ์นิ้วหัวแม่มือขวา นอกจากนี้แต่ละหน้ายังมีข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือบัตรละเอียดยิบ เช่น ตำหนิแผลเป็น และชื่อบิดา-มารดา อายุบัตร 10 ปี ให้ผู้มีอายุ 16 ปี จนถึง 70 ปีบริบูรณ์ต้องมีบัตร บัตรหมดอายุเสียค่าธรรมเนียมไม่เกิน 25 สตางค์



บัตรประชาชนรุ่นแรกใหญ่ มีขนาดที่พกพาไม่สะดวก อีกทั้งวิธีการจัดทำบัตรล้าสมัย เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ออกบัตรประชาชนรุ่นที่ 2 ขึ้น เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2506 เป็นบัตรรูปขาว-ดำ สี่เหลี่ยมผืนผ้า เคลือบพลาสติกใส กว้าง 6 ซม. ยาว 9 ซม. พกพาสะดวก รายการผู้ถือบัตร พิมพ์ด้วยพิมพ์ดีดธรรมดา พร้อมขยายอายุผู้มีบัตร 17 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี อายุบัตร 6 ปี ค่าธรรมเนียมในการออกบัตรและเปลี่ยนบัตร 5 บาท เมื่อกำหนดอายุผู้มีบัตร 17 ปี ไม่สอดคล้องกฎหมายคุ้มครองแรงงาน อีกทั้งกำหนดให้นับอายุตามปี พ.ศ. ทำให้จำนวนประชาชน ผู้ยื่นคำขอมีบัตรประชาชนมากมายในช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึงสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ ของทุกปี ทำให้การบริการประชาชนไม่ทั่วถึง

สมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี  จึงออก พ.ร.บ. บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526 มาบังคับแทน มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. 2526 จนถึงปัจจุบัน โดยลดอายุผู้มีบัตรจาก 17 ปี เหลือ 15 ปี และขยายเวลาการขอมีบัตรจาก 60 วัน เป็น 90 วัน พร้อมขยายอายุการใช้บัตรจาก 70 ปีบริบูรณ์ เป็นจนกว่าผู้ถือบัตรจะเสียชีวิต แต่รูปแบบบัตรก็ยังเหมือนเดิม


เมื่อกลุ่มบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในประเทศไทยมากขึ้น การปลอมแปลงบัตรประชาชนระบาดหนัก อีกทั้งจากความล่าช้าในการออกบัตรที่ยังใช้แรงงานคน ในที่สุด คณะรัฐมนตรีสมัย พล.อ.เปรม  ติณสูลานนท์ ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 เมษายน2529 เห็นชอบให้ผลิตบัตรประชาชนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพลิกโฉมหน้าบัตรประชาชนเป็นรุ่นที่ 3 เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2531 บัตรเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 5.4 ซม. ยาว 8.4 ซม. คล้ายรุ่นที่ 2 ที่โดดเด่นคือรูปถ่ายเจ้าของบัตรเป็นรูปพิมพ์สี และเคลือบวัสดุพิเศษป้องกันการปลอมแปลง 


จากนั้นก็มีบัตรประชาชนรุ่นที่ 4 ออกมา ที่เรียกว่าบัตรประชาชนไฮเทค หรือบัตรแบบแถบแม่เหล็ก มีลักษณะคล้ายบัตรเครดิต กว้าง 5.4 ซม. ยาว 8.6 ซม. พื้นบัตร 2 ด้านเป็นสีขาว มีลายสีฟ้า ด้านหน้าของบัตรมีรูปถ่าย พร้อมรายการประวัติของเจ้าของบัตร ที่ระบุหมู่โลหิตเจ้าของบัตรเพิ่มมาด้วย รวมทั้งใช้แถบแม่เหล็กบันทึกข้อมูลผู้ถือบัตร และควบคุมรหัสการออกบัตร ผลิตด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ ประชาชนที่มาทำบัตร รอรับการบริการได้ทันทีภายในวันเดียวที่มายื่นทำบัตร โดยไม่ต้องรอใช้ใบเหลืองที่เป็นใบทดแทนบัตรประชาชนระหว่างรอบัตรใช้บัตรประชาชนไฮเทคที่จังหวัดปทุมธานี และในกรุงเทพฯ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2539 


เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้คิดทำบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด นำร่องกลางปี 2547 มีรูปแบบคล้ายบัตรประชาชนรุ่นที่ 4 เพิ่มไมโครชิพบันทึกข้อมูล และเพิ่มรายการเจ้าของบัตร มีชื่อสกุลภาษาอังกฤษ ดำเนินการโดยสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับ 94 หน่วยงาน เชื่อมโยงการใช้ข้อมูล ใช้สมาร์ทการ์ดใบเดียว ไม่ต้องพกบัตร หลายใบ เช่น บัตรประกันสังคม บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล การใช้บัตรประชาชนต่อใบอนุญาตหนังสือเดินทาง โดยไม่ต้องใช้ทะเบียนบ้าน อนาคตขยายการเชื่อมต่อข้อมูลในบัตรกับส่วนราชการอื่น ๆ มาจนกระทั่งปัจุบัน

1 ความคิดเห็น:

  1. สนใจหาซื้อโปรแกรม Visitor management system ที่ใช้อ่านบัตร smart card ได้ที่ 038-029-432

    SURE VMS

    "SURE VISIT แค่คิดก็ปลอดภัย"
    SURE SUCCESS SOLUTON CO.,LTD.
    http://www.axsuccess.com

    ตอบลบ